วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Red bull


กระทิงแดง [Red bull ]
Brand Profile

เป็นบริษัทที่ก่อตั้งและดำเนินงานโดยคนไทย มานานกว่า 30 ปี
โดยผลิตเครื่องดื่มให้พลังงาน KRATING DAENG และ
เครื่องดื่มดื่มเกลือแร่ Sponsor
ต่อมาในปี 2530ได้ขยายตลาดออกไปในต่างประเทศ โดยเป็นที่นิยม
อย่างแพร่หลายทั้งใน เอเชีย ยุโรป และอเมริกา กว่า 108 ประเทศทั่วโลก
ภายใต้ผลิตภัณฑ์ชื่อ "Red Bull" และในปี 2543 ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เดียวกัน
ในประเทศไทยภายใต้ชื่อ 'เรดบูล เอ็กซ์ตร้า' เพื่อขยายตลาดไปสู่ กลุ่ม
ผู้บริโภควัยรุ่นชาวไทย




Red Bull กับการเล่นกีฬาในต่างประเทศ
Red Bull เป็นหนึ่งในผู้นำของเครื่องดื่มเพื่อการเล่นกีฬา โดยเฉพาะ
กีฬาในต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะ Red Bull เป็นนั้นถือเป็น
ส่วนหนึ่งของการกีฬา ด้วยเหตุที่บรรดานักกีฬาต่างรู้ดีจากประสบการณ์ถึง
คุณประโยชน์ของส่วนผสมช่วยเพิ่มพลังที่มีอยู่ในเครื่องดื่ม Red Bull
ปัจจัยสำคัญของนักกีฬาต่างชาติทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่เป็นการแข่งขัน
คือ ความอดทน การมีสมาธิ และการตอบสนองอย่างฉับไว
ซึ่งการศึกษาอย่างละเอียดรอบด้านถึงผลกระทบของการดื่ม Red Bull แสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่ม
Red Bull ช่วยเพิ่มสมรรถนะต่าง ๆ
ดังกล่าวได้ไม่ว่าคุณจะเล่นกีฬาชนิดใด หากการแข่งกีฬาครั้งนั้นจะดำเนินไปยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ได้รับคุณประโยชน์สูงสุด
จาก Red Bull ในต่างประเทศแถบยุโรปนิยมดื่ม Red Bull ปริมาณ 1 - 2 กระป๋อง ประมาณ 30 - 45 นาที ก่อนที่การแข่งขันจะจบลง
เช่นก่อนการทุ่มแรงเฮือกสุดท้าย ในการแข่งขันจักรยาน หรือการวิ่งระยะไกล ตอนพักครึ่งเวลาในการแข่งฟุตบอล รักบี้ บาสเก็ตบอล
และวอลเลย์บอล หรือจะเป็นก่อนเซ็ตสุดท้ายของการแข่งเทนนิส สควอซ และปิงปอง เป็นต้น


เคล็ดลับ ข้อที่ 1
เนื่องจากเครื่องดื่ม Red Bull ไม่สามารถที่จะใช้เป็นเครื่องดื่มทดแทนการสูญเสียน้ำ ในต่างประเทศจึงแนะนำให้นักกีฬาผสม Red Bull
กับน้ำดื่มในอัตราส่วน 1 : 1 ดื่มระหว่างการเล่นกีฬาที่ต้องออกแรง การทำเช่นนี้จะทำให้ Red Bull ซึมเข้าสู่ร่างกาย (กระแสเลือด)
ได้เร็วขึ้นช่วยให้สดชื่นได้เร็วขึ้น
เคล็ดลับ ข้อที่ 2 ใน Red Bull หนึ่งกระป๋อง จะมีคาเฟอีนผสมอยู่ 50 ม.ก. (ประมาณเท่ากับกาแฟอ่อน ๆ หนึ่งถ้วย) การดื่ม Red Bull หนึ่งหรือสองกระป๋อง
จึงไม่เป็นเหตุให้นักกีฬาต้องถูกจับฟาล์ว กรณีมีคาเฟอีนในกระแสเลือดมากเกินกำหนด อย่างไรก็ดี นักกีฬาอาชีพควรขอคำแนะนำ
จากนักโภชนาการ เกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายควรได้รับ

ถาม Energy Drink หรือเครื่องดื่มให้กำลังงาน คืออะไร ?
ตอบ เครื่องดื่มให้กำลังงาน คือเครื่องดื่มเสริมเพิ่มกำลังงานให้กับคุณ เมื่อคุณมีการทำกิจกรรม
ที่ต้องใช้กำลัง และคุณกำลังอ่อนเพลีย ในเครื่องดื่ม Red Bull Extra มีส่วนผสมที่สำคัญคือ
ทอรีน โคลีน ไลซีน คาเฟอีน และวิตามินบี 6 , บี 12 ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย คือ
- ช่วยเพิ่มความ สดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย
- มีสมาธิดี และมีการตอบสนองที่ฉับไว
- เพิ่มความกระฉับกระเฉง
- กระตุ้นระบบการทำงานภายในร่างกาย
ถาม เมื่อไหร่ที่คุณต้องการเครื่องดื่ม Red Bull Extra ?
ตอบ Red Bull Extra คือ เครื่องดื่มให้กำลังงานของทุกคนที่ต้องการรู้สึกตื่นตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ไม่ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่

- เมื่อคุณกำลังจะเข้าสู่ช่วงกลางคืนอันยาวนานโดยไม่มีโอกาสพักผ่อน
- เมื่อคุณต้องการความตื่นตัวขณะขับรถระยะทางไกลๆ
- ในระหว่างการทำงานติดต่อกันหลายๆวัน ระยะส่งงานก็กระชั้นชิดเข้ามา และพลังงานสำรองของคุณกำลังจะหมด
- เมื่อคุณมีความต้องการที่จะออกกำลังกาย หรือในระหว่างการอ่อนเพลียระหว่างการซ้อม
- เมื่อคุณอดนอนเพราะคุณต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ
- ดื่มร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณโปรดปราน เพื่อลดอาการ Hang Over หลังสิ้นสุดงานปาร์ตี้ยามค่ำคืน
ถาม เครื่องดื่ม Red Bull Extra แตกต่างจาก กระทิงแดง อย่างไร ?
ตอบ แตกต่างกันที่บรรจุภัณฑ์ ปริมาณ และส่วนผสม ในส่วนของ Red Bull Extra จะมีรสชาติ กลิ่น
คล้ายผลไม้รวม บรรจุในขนาดพิเศษ 180 ซีซี. มีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

- ทอรีน ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และพัฒนาสมอง
- ไลซีน ช่วยระบบการย่อยโปรตีนในร่างกาย
- โคลีน ช่วยป้องกันการยึดเกาะของไขมันส่วนเกินและกำจัดไขมัน ส่วนเกินออกจากตับ
- วิตามินบี 6 ยังช่วยสร้าง เม็ดเลือดแดง และช่วยในกระบวนการดูดซึมของร่างกาย
- วิตามินบี 12 ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของเซลล์ทุกชนิด
ถาม ที่ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด เป็นเพราะอะไร ?
ตอบ ข้อห้ามที่กำหนดโดยคณะกรรมการอาหารและยาซึ่งความจริงมีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
ที่เครื่องดื่มประเภทให้กำลังงาน ถูกคณะกรรมการอาหารและยากำหนดให้ระบุข้อความนี้ แม้แต่ในประเทศอเมริกา
หรือในยุโรปซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า FDA เคร่งครัดมากในเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค
ก็ไม่มีการห้ามในลักษณะนี้ ในความเป็นจริงแล้วสามารถดื่มได้มากกว่า 2 ขวด ได้โดยไม่มีผลเสียต่อร่างกาย
ปริมาณการดื่มในแต่ละวันที่คุณจะดื่มได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนคาเฟอีนที่ร่างกายจะรับได้ ซึ่งไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล
ขอให้ลองสังเกตจากปริมาณที่คุณดื่มกาแฟเป็นหลัก
( ดูการเปรียบเทียบปริมาณคาเฟอีนในข้อถัดไปประกอบกัน )

ถาม ปริมาณคาเฟอีนใน Red Bull Extra เหมือนกับคาเฟอีนที่อยู่ใน น้ำอัดลมหรือไม่ ?
ตอบ ปริมาณคาเฟอีนใกล้เคียงกับน้ำอัดลม แต่จะน้อยกว่ากาแฟกระป๋องที่มีขายอยู่ทั่วไป
ในท้องตลาด Red Bull Extra มีส่วนผสมของวิตามินที่ให้ประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย

เปรียบเทียบปริมาณคาเฟอีน
- น้ำอัดลม 1 กระป๋องมีคาเฟอีน ประมาณ 46 มิลลิกรัม
- Red Bull Extra 1 กระป๋อง มีคาเฟอีนสกัดอยู่ ประมาณ 50 มิลลิกรัม
- กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม มีคาเฟอีนอยู่ ประมาณ 74 – 212 มิลลิกรัม
ข้อมูลจาก “คาเฟอีน Facts & Issues โดย รศ. ชัยชาญ แสงดี
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และ ดร.อุดม จันทรารักษ์ศรี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถาม เรดบูล เป็นที่นิยมในต่างประเทศจริงหรือ และมีส่วนผสม หรือสูตรเดียวกับในเมืองไทยหรือไม่ ?
ตอบ กระทิงแดง หรือ Red Bull มีจำหน่ายทั่วโลก และได้รับความนิยมมาก
แต่ในบางประเทศจะมีการปรับรสชาติหรือเติมคาร์บอนเนตเพิ่มความซ่าตามความนิยมที่แตกต่างกันไป
Red Bull ในต่างประเทศเป็นที่นิยมของคนทุกกลุ่ม และทุกชนชั้นในสังคม ในประเทศไทยเอง
ผู้ที่เคยเดินทางไปต่างประเทศจะทราบความจริงข้อนี้ และนิยมกลับมาดื่มที่เมืองไทยเช่นกัน
ถาม Red Bull Extra หรือ เรดบูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นกีฬาอย่างไรบ้าง ?


ตอบ เรดบูล เป็นหนึ่งในผู้นำของเครื่องดื่มเพื่อการเล่นกีฬา ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจ
ด้วยเหตุที่บรรดานักกีฬาต่างประเทศ ต่างก็รู้ดีจากประสบการณ์ถึงคุณประโยชน์ของส่วนผสม
ที่ช่วยเพิ่มพลัง ซึ่งมีอยู่ในเครื่องดื่มเรดบูล ปัจจัยสำคัญของนักกีฬาทุกคน
เฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่เป็นการแข่งขันใช้ความอดทน ใช้สมาธิ และการตอบสนองอย่างฉับไว
ซึ่งการศึกษาอย่างละเอียดรอบด้านถึงผลของการดื่มเรดบูล แสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มเรดบูล
ช่วยเพิ่มสมรรถนะต่างๆ ดังกล่าวได้ไม่ว่าคุณจะเล่นกีฬาชนิดใด
หากการแข่งกีฬาครั้งนั้นจะดำเนินไปยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ได้รับคุณประโยชน์สูงสุด
จากเรดบูล คุณควรดื่มเรดบูล 1 – 2 กระป๋อง ประมาณ 30 - 45 นาที ก่อนที่การแข่งขันจะจบลง
เช่นก่อนการทุ่มแรงเฮือกสุดท้ายในการแข่งขันจักรยาน ฟุตบอล หรือ การวิ่งระยะไกล เป็นต้น
* * * เราแนะนำให้ผสมเรดบูลกับน้ำดื่ม ในอัตราส่วน 1 : 1 ดื่มระหว่างการเล่นกีฬาที่ต้องออกแรง
การทำเช่นนี้จะทำให้เรดบูล ดูด ซึมเข้าสู่ร่างกาย(กระแสเลือด)ได้เร็วขึ้น ช่วยให้สดชื่นเร็วขึ้น


ORIGINAL REDBULL [กระทิงแดง] :
กระทิงแดง แบรนด์ไทยโกอินเตอร์
เมื่อเอ่ยถึง เรด บูล หลาย ๆ คนอาจจะแค่คุ้น ๆ หู แต่ถ้าบอกว่า กระทิงแดงหลาย ๆ คนคงจะร้องอ๋อแน่ ๆ กระทิงแดงนั้นเป็นเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังของไทย ซึ่งปัจจุบันนั้นโกอินเตอร์ไปไกลถึงต่างแดนเลยทีเดียว

เครื่องดื่มชูกำลังนั้นมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตเพื่อให้ ส.ส.อาวุโสของสภาไดเอ็ต*ญี่ปุ่นดื่ม เพื่อให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและมีแรงในการทำงาน แล้วจึงมีการนำเข้ามาขายในประเทศไทย
เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2508 ในนามของ ลิโพวิตันดี



และในขณะเดียวกันนั้นเอง คุณเฉลียว อยู่วิทยา ได้มองเห็นช่องทางที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในธุรกิจนี้ได้ จึงได้ริเริ่มศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มชูกำลังและออกเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังฝีมือคนไทย

ในช่วงแรก ๆ นั้นลิโพวิตันดีเข้ามาถือครองตลาดกว่าร้อยละ 90 ทีเดียว แต่เมื่อมีการปล่อยกระทิงแดงออกมาต่อกร ทำให้สถานการณ์พลิกผัน กระทิงแดงกลายเป็นผู้ครองตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องมาจาก ลิโพวิตันดีนั้นเน้นไปที่ตลาดกลุ่มบน

แต่กระทิงแดงเน้นไปที่ตลาดระดับรากหญ้าที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก บวกกับมีการปรับปรุงรสชาติให้ถูกปากคนไทยจึงทำให้กระทิงแดงกลายเป็นเครื่องดื่มขวัญใจผู้ใช้แรงงานและคนขับรถบรรทุกไปอย่างเต็ม ๆ
ก้าวแรกของการโก อินเตอร์ของกระทิงแดงนั้น เริ่มมาจากคุณดีทริช มาเดอชิทช์ ชาวออสเตรีย มีโอกาสได้ลิ้มลองเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ไทยแบรนด์นี้เข้าแล้วเกิดติดใจจึงได้มีการเจราขอร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ด้วยกัน ในสัดส่วน 51 : 49 และที่ทำให้เกิด เรด บูล ขึ้น ณ บัดนั้น

ซึ่งก้าวแรกของการโก อินเตอร์นั้นก็จำเป็นต้องมีการโมดิฟายด์ภาพลักษณ์กันนิดนึง โดยเริ่มจากรสชาติที่ปรับให้เข้ากับคนยุโรปมากขึ้น และมีการนำมาบรรจุใส่กระป๋องน้ำอัดลมแทนการบรรจุในขวดแก้ว (แบบที่เห็นวางขายทั่ว ๆ ไปเนี่ยแหล่ะค่ะ) ซึ่งกระป๋องที่ใช้เป็นสีฟ้า แต่ยังคงสัญลักษณ์โลโก้แบบของไทยเช่นเดิม

เมื่อครั้งแรกเริ่มที่เรด บูลออกวางตลาดในออสเตรียนั้นปรากฎว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาชาวออสเตรียมาก ทำให้ เรด บูล สามารถทำยอดขายได้ถึงหนึ่งล้านกระป๋องภายในหนึ่งปีทีเดียว จากนั้นจึงมีการขยายตลาดไปยังส่วนอื่น ๆ ของยุโรปต่อไป

แม้ว่าจะเป็นกระทิงแดงเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความต่างระหว่างกระทิงแดงไทยกับกระทิงแดงไทยในต่างแดน เนื่องจากกระทิงแดงไทยนั้นเน้นไปที่ตลาดระดับรากหญ้าเป็นสำคัญ ดังนั้นการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมจึงเน้นหนักไปในแนวทางของกลุ่มผู้ใช้แรงงานหรือกลุ่มคนระดับล่างเป็นสำคัญ เช่น โครงการอิสานเขียว เป็นต้น

ในขณะที่กระทิงแดงไทยในต่างแดนนั้น จะเน้นไปที่ตลาดระดับกลางเน้นเจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมจึงเน้นไปที่กิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือกลุ่มกีฬาเอ็กตรีม**ทั้งหลาย

รวมไปถึงการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์หรือซื้อกิจการต่างๆ ให้กับกีฬาในสหรัฐอเมริกา เช่น การซื้อกิจการ นิวเจิร์ซี่ เมโทรสตาร์ (เปลี่ยนชื่อเป็น เรดบูล นิวยอร์ก) หรือการซื้อทีมรถแข่งสูตรหนึ่ง เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานแข่งเต้นเบรกแดนซ์ หรือแม้กระทั่งการจัดเรด บูลปาร์ตี้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักศึกษา

ปัจจุบันเรด บูลนั้นวางขายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากมายจนสามารเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ทำให้กระทิงแดงเป็นที่รู้จักดีทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศ

เราคนไทยก็ต้องภูมิใจในสินค้าไทย แล้วก็ต้องช่วยกันส่งเสริมเยอะ ๆ นะคะ อย่างคำขวัญที่ว่าไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ แม้ว่าจะเผด็จการไปหน่อยแต่ก็ถ้าทำได้ ผลดีก็ตกอยู่ที่ประเทศเรานะคะ




CSR : brand กระทิงแดงกับการสร่างสรรค์สังคม

กระทิงแดง เดินหน้าท้าทายให้คนไทยกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อตนเองและสังคมด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่
"กระทิงแดง" ยังสานต่อแนวคิด "ลูกผู้ชายตัวจริง...กระทิงแดง" ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการสร้างจิตสำนึกเพื่อกระตุ้นให้ทุกคนร่วมกันสร้างสรรค์สังคม เดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยทุกคนทุกอาชีพ ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากตนเองก่อน "กล้าที่จะเปลี่ยน" เพื่อพัฒนาให้ตัวเอง ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งจะนำไปสู่สังคมโดยรวมที่ดีต่อไป
เครื่องดื่ม "กระทิงแดง" หวังว่าโฆษณาทางโทรทัศน์ชุดใหม่ซึ่งเริ่มออกอากาศวันที่ 6 เมษายน 2547 จะเป็นการตอกย้ำให้กลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภคตระหนึกถึงจุดยืนในการสนับสนุนให้สังคมไทยเห็นคุณค่าของการทำดีที่บริษัทฯ ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด และเป็นการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกที่ดีมากขึ้นกับ "กระทิงแดง" และขยายความหมายของวลี "ลูกผู้ชายตัวจริง" ให้ครอบคลุมกว้างเดิม ว่า "สังคมจะดี ถ้าคุณกล้าที่จะเปลี่ยน" เน้นและส่งเสริมแนวคิดที่ว่า เมื่อทุกคนมีความคิดและกล้าเปลี่ยนตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นแล้ว สังคมโดยรวมก็จะดีขึ้นด้วย

นายสาธิต สถีระศรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด-ผลิตภัณฑ์กระทิงแดง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด เปิดเผยว่า "ถึงตอนนี้แล้ว ผมมั่นใจว่าผู้บริโภคคงตระหนักถึงภาพลักษณ์ของบริษัทเราในฐานะเป็นองค์กรที่สนับสนุนกิจกรรมที่รังสรรค์การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข วันนี้เราต้องการย้ำอีกครั้งว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอาจจะเริ่มจากการเปลี่ยนตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเป็นการช่วยเหลือหรือทำความดีแบบใหญ่โต ถ้าเราเปลี่ยนตัวเองเพื่อสิ่งดีๆ สังคมรอบข้างก็ย่อมจะดีไปด้วยแน่นอน คนกลุ่มนี้ถือเป็น "ลูกผู้ชายตัวจริงของสังคมไทย" ได้เหมือนกัน"
ภาพยนตร์โฆษณาล่าสุดของกระทิงแดงมาพัฒนาจากแนวคิด "ลูกผู้ชาย กล้าที่จะเปลี่ยน" ซึ่งผลิตโดย บริษัท ครีเอทีฟ จูซ จี-วัน จำกัด และจะมีทั้งหมด 7 ชุด มีความยาว 90 วินาที 2 ชุด 60 วินาที 2 ชุด 30 วินาที 2 ชุด และ 15 วินาที 1 ชุด ทั้งหมดจะใช้เพลง "เราเปลี่ยนไปแล้ว" เป็นเพลงประกอบเพื่อสื่อถึงการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง
โฆษณาดังกล่าวจะนำเสนอภาพ "เด็กนักเรียนอาชีวะที่เลิกตีกัน" "ข้าราชการเลิกรับใต้โต๊ะ" "พ่อค้าซีดีเลิกขายหนังโป๊" "แก๊งค์มอเตอร์ไซค์เลิกขับซิ่งและหันมาสวมหมวกนิรภัย" "กลุ่มผู้มีอิทธิพลเลิกค้ายา" "กลุ่มหลอกลวงค้าประเวณีกลับตัว" "แม่ค้าเลิกโกงตาชั่ง" "ขโมยกลับใจ" ฯลฯ
"เราต้องการสื่อให้ผู้บริโภคเห็นว่า แม้คุณจะไม่มีโอกาสช่วยชีวิตคนหรือสัตว์ หรือไม่ได้ช่วยจับโจรผู้ร้าย คุณก็สามารถมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมได้เสมอ เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ไม่สร้างผลกระทบต่อคนอื่น คุณก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรังสรรค์สังคมให้น่าอยู่ขึ้นแล้ว เรื่องง่ายๆ แบบนี้ "กระทิงแดง" เห็นว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่องเช่นกัน ทั้งนี้เป็นการปลุกกระแสให้คนไทยเริ่มหันมาเห็นความสำคัญของจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งไม่เพียงเป็นผลดีต่อตัวเองในระยะยาว ยังส่งผลให้สังคมดีขึ้น และหากทุกคนในสังคมคิดและปฏิบัติได้เช่นนี้ ผลดีต่อสังคมโดยรวมย่อมมีมากขึ้นทวีคูณ" นายสาธิตกล่าวเสริม
"กระทิงแดง" ทุ่มงบรวมกว่า 100 ล้านบาทเพื่อผลิตโฆษณาชุดใหม่ พร้อมแผนประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อรุกตลาด ตั้งแต่ไตรมาสที่สองเป็นต้นไป ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานของไทยมีมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 5-8% ต่อปี กระทิงแดงครองส่วนแบ่งตลาด 32% บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปี 2547" "กระทิงแดง" จะมีอัตราการเติบโตจากยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับการเติบโตของ "กระทิงแดง" เองจากปี 2546 ที่ผ่านมา
อนึ่ง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด เป็นบริษัทที่ก่อตั้งและดำเนินงานโดยคนไทยมานานกว่า 30 ปี โดยในระยะแรกได้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มให้พลังงานตรา "กระทิงแดง" ในตลาดประเทศไทย และต่อมาในปี 2530 จึงได้ขยายตลาดออกไปในต่างประเทศ โดยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ภายใต้ชื่อ "เรดบูล" รวมทั้งมีตลาดผลิตภัณฑ์ในชื่อ "เรดบูล เอ็กซ์ตร้า" สำหรับตลาด กลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นชาวไทย
กระทิงแดงสานต่อ “เรารักษ์น้ำ” โครงการ 2 ตามรอยพ่อหลวง ส่งเสริม “เกษตรทฤษฎีใหม่”

ผู้บริหาร บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด นำทีมพนักงาน เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ขุดสระน้ำตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ ในโครงการ“เรารักษ์น้ำ”โครงการ2 ภายใต้ชื่อ“ขุดสระน้ำเพื่อชาวนาไทย เทิดไท้80พรรษา มหาราชันย์”ที่หมู่บ้านละหานนา ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านปลูกต้นไม้รอบสระ และปล่อยปลาลงในสระน้ำ ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของชาวบ้านที่จะมีแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตรตามแนวพระราชดำริ
“เรารักษ์น้ำ”เป็นโครงการที่เดินตามรอยกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับ ”น้ำ”เริ่มด้วย “เรารักษ์น้ำ”โครงการ1 ซึ่ง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ได้ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง จัดสร้างอ่างเก็บน้ำชุมชน80อ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงจำนวน13ศูนย์ ในภาคเหนือ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการมอบความอยู่ดีกินดีให้กับชุมชนบนดอยให้ได้มีน้ำสำหรับใช้ในการอุปโภค-บริโภค รวมทั้งช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเกี่ยวกับภัยแล้ง และถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลพระชนมายุครบ80พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ล่าสุดชาวบ้านละหานนา ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น กลุ่มนำร่องในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างมีความหวังและกำลังใจอีกครั้ง เมื่อบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ร่วมมือกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตพื้นที่3กรมวิชาการเกษตรขอนแก่น และองค์การบริหารส่วนตำบลละหานนา ทำการขุดสระน้ำตาม
แนวกระแสพระราชดำริทฤษฎีใหม่ เกิดเป็น“เรารักษ์น้ำ”โครงการ2ภายใต้ชื่อ การขุดสระน้ำเพื่อชาวนาไทย เทิดไท้80พรรษา มหาราชันย์ ซึ่งผู้บริหารของ บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ได้นำทีมพนักงานไปตรวจเยี่ยมสระน้ำที่ขุดเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมร่วมกิจกรรมปลูกต้นกล้วยรอบสระน้ำ เพื่อป้องกันการพังทะลายของหน้าดิน อีกทั้งปล่อยพันธุ์ปลาต่างๆ ลงในสระน้ำร่วมกับชาวบ้านละหานนา
คุณสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด กล่าวว่า การที่กระทิงแดงสนับสนุนให้มีการขุดสระน้ำให้กับชาวบ้านละหานนา ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชาวบ้านเดินตามรอยกระแสพระราชดำริทฤษฎีใหม่ ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเกษตรแบบผสมผสาน ส่งเสริมให้มีการปลูกหญ้าแฝก หรือพืชผลคลุมดิน อาทิ พืชผักและไม้ยืนต้น สมุนไพรล้อมรอบสระน้ำ ซึ่งชาวบ้านได้เลือกปลูกต้นกล้วย เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
“กิจกรรมนี้ นอกจากจะทำให้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ ให้รู้จักและตระหนักถึงคุณค่าของน้ำ ปลูกฝังการมีน้ำใจโอบอ้อมอารี มีการแบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วย”
คุณสุทธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเริ่มโครงการนี้ ทางกระทิงแดงได้ลงไปสำรวจพื้นที่และศึกษาเกี่ยวกับปัญหาเรื่องน้ำอย่างจริงจัง ทำให้ได้รับทราบถึงความทุกข์ยากของเกษตรกรเกี่ยวกับน้ำ โดยเฉพาะเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีฝนตกน้อยค่อนข้างแห้งแล้ง จึงเป็นที่มาของการน้อมนำกระแสพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ“เรารักษ์น้ำ”โครงการ2 ซึ่งจะขุดสระน้ำให้กับชาวบ้านจำนวน189สระ ในพื้นที่3จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สกลนคร อุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำฝนในฤดูฝน และส่งเสริมการปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งให้กับเกษตรกร
สำหรับการขุดสระ“เรารักษ์น้ำ”โครงการ2แบ่งการขุดสระออกเป็น2ประเภทคือ 2,500 ลบ.ม. และ 3,700 ลบ.ม. การขุดเพิ่มเติมจากสระน้ำที่ชาวบ้านมีอยู่เดิม และขุดสระเก็บน้ำขึ้นมาใหม่ ขนาดของสระมี 2รูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของขนาดไร่-นา นอกจากนี้ ผลพลอยได้จากการขุดสระน้ำ ที่นอกเหนือจากการมีน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรแล้ว ยังสามารถนำหน้าดินจากการขุดสระ ซึ่งเป็นดินดีไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับหน้าดิน ส่วนดินชั้นล่างซึ่งเป็นดินแข็ง ยังสามารถนำไปสร้างถนนหนทางได้
นายอุดม สุขแป ประธานกลุ่มพัฒนาเกษตรบึงละหานนา เป็นตัวแทนชาวบ้านละหานนา เผยว่า ชาวบ้านละหานนารู้สึกดีใจ และยินดีมากที่ภาครัฐและเอกชนได้เข้ามาให้ความรู้ และสนับสนุนเงินทุนในการขุดสระน้ำ ทำให้ชาวบ้านละหานนามีความตื่นตัว และพร้อมที่จะน้อมรับแนวทางการเกษตรทฤษฎีใหม่กันมากขึ้น
“การมาขุดสระน้ำให้พวกเรา เท่ากับมาช่วยทำให้ความหวังที่จะมีสระน้ำเอาไว้เก็บกักน้ำของชาวบ้านมาถึงเร็วขึ้น เพราะการขุดสระน้ำที่ได้มาตรฐานจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนสูง แม้ว่าชาวบ้านจะมีการขุดสระน้ำไว้ใช้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่แบบผสมผสาน โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนทิ้งช่วง เกือบจะไม่มีน้ำมาใช้ในการทำนาและการร่วมแรงร่วมใจกันทำกิจกรรมปลูกต้นกล้วยและปล่อยปลาลงสระน้ำในวันนี้ ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชน มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยชาวบ้านสานต่อแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ ให้เป็นจริงขึ้นมา”
สอดคล้องกับแนวทางของชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้าน ที่มีอาชีพหลักคือการทำนา และเมื่อว่างเว้นจากการทำนาก็ปลูกผักไว้ขาย แต่ในช่วงที่ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงมีน้ำไม่พอมาใช้ในการปลูกข้าว มีบางปีถึงกับต้องหยุดทำนา แต่หลังจากที่มีการขุดสระน้ำเพิ่มแล้ว ทำให้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้
“ที่สำคัญทำให้ครอบครัวของพวกเรามีงานทำตลอดทั้งปี สามารถเก็บผลผลิตที่เราปลูกและเลี้ยงปลาไว้ไปขาย ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
“เรารักษ์น้ำ”ทั้งโครงการ1และ2จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันนำไปสู่การสร้างสรรค์และพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งและมีความสุข ตามปณิธานของเครื่องดื่มกระทิงแดงที่ว่า“กระทิงแดงมุ่งมั่น สร้างสรรค์ พัฒนาสังคม”
หลังจากได้วิเคราะห์แล้วคร่าวๆ ตาม david aeker’s model :
หรือตามหลักการ
- Brand Equity
- Brand Identity
- The brand as product
- The brand as symbol
- The brand as person
สิ่งที่เป็น Benefit ที่ผู้บริโภคนึกถึง : เครื่องดื่มชูกำลัง
Target : พวกที่ต้องทำงานหนัก [ใช้กำลัง],กรรมกร,คนต่างจังหวัด
Price : 10 บาท
คุณภาพสมราคากว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
Slogan/copy : ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง
**ราคาปลีกแพงกว่าคู่แข่ง แก้ปัญหาโดยการลดราคาส่งในการขาย แต่ร้านค้าก็ยังคงได้กำไรเหมือนเดิม
Brand identity : ความเป็นลูกผู้ชาย
คู่แข่ง [competitor]
- M150
- คาราบาวแดง
- ลูกทุ่ง
- 357
- แรงเยอร์
- คอมมานโด,หมีควาย
**มีการ re-positioning เพราะอยากให้ target เป็นแบบที่เป็นคนดีของสังคม ทำให้แบรนด์ upper จากการที่ได้ re-position รวมไปถึงการ re-packaging ทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น แต่สรรพคุณยังคงเดิม [Functional Benefit]
**Re-packaging เพราะ [weakness]
- ปากขวดเล็ก
- เนื้อแก้วปาก
**ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
- ติดlogo แล้วexecution ไม่เวิค
- ดูเป็นยามากเกินไป
**ที่สำคัญการ re-package ทำให้การ re-positioning สมบูรณ์
ผู้บริโภคมี feedbackในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ดี
**the brand as a product : ความเป็นลูกผู้ชาย แมนๆ ดิบๆ
**the brand as person : วินัย ไกรบุตร
**the brand as symbol : สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอย่างแรก “logo”
สีของ brand : น้ำเงิน-แดง




รายชื่อผู้จัดทำ
นางสาวพรระวี สมัครไทย 1500332505
นางสาวชฎาภา ตงสาลี 1500304447
นางสาวสุจินดา นิ่มอ้อน 1500312705
นางสาวกรรณิกา หันตรา 1510305194
นายนรินทร์ ซุลศักดิ์สกุล 1510305210